สวยอันตราย… 9 ทรีทเม้นท์ทำร้ายร่างกายทางอ้อม

    เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ค่อนข้างเห็นด้วยกับสุภาษิตที่ว่า “ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง” เราจึงใส่ใจดูแลร่างกายให้ดูดีกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำสปาตัว สปาผม นวดเท้า ตกแต่งเล็บมือ หรือการทำทรีทเม้นท์เพื่อสุขภาพ แต่ก่อนจะตัดสินใจไปทำทรีทเม้นท์อะไร เราอยากให้ดูข้อมูลต่อไปนี้ที่เราจะนำเสนอกันก่อนค่ะ เพราะบางทีทรีทเม้นท์บางอย่างก็อันตรายกับร่างกายของเราไม่ใช่เล่นเลยล่ะ

 

 1. สปาหู

 

          สปาหูเป็นศาสตร์บำบัดสำหรับคนที่มีปัญหาสุขภาพหู เช่น ปวดหูเนื่องจากโทรศัพท์มากเกินไป โดยวิธีก็คือ นำเทียนขี้ผึ้งสมุนไพรผสมกับน้ำมันหอมระเหย ที่มีรูกลวงตรงกลาง จ่อเข้าไปที่รูหู จากนั้นจุดไฟที่ปลายเทียน เพื่อให้ความร้อนและควันจากเทียนผ่านเข้าไปในช่องหู ช่วยฆ่าเชื้อโรคสำหรับคนที่มีขี้หูเปียกและบำบัดอาการปวดหู 

          แต่ทว่า แพทย์ได้ออกมาบอกว่า การทำสปาหูเป็นอันตรายต่อสุขภาพหูเป็นอย่างมาก เพราะหูเป็นอวัยวะที่เปราะบาง จึงควรได้รับการดูแลรักษาอย่างอ่อนโยนที่สุด และกระบวนการของสปาหูอาจเป็นเหตุให้แก้วหูได้รับอันตราย เกิดการอุดตันในช่องหู หรืออาจจะร้ายแรงไปถึงขั้นสูญเสียการได้ยินไปเลย 

          ดังนั้น แพทย์จึงแนะนำว่าการทำความสะอาดช่องหูควรทำด้วยวิธีอ่อนโยน ไม่รุนแรง และใช้วัสดุที่ค่อนข้างนุ่มอย่างคอตตอนบัดทำความสะอาดช่องหูจะดีกว่า หรือถ้ามีปัญหาสุขภาพก็ควรปรึกษากับแพทย์ดีที่สุดค่ะ

 

 2. สปาเท้า

 

          หลายคนชื่นชอบการสปาเท้า เพราะให้ความรู้สึกสบาย และคิดว่าเป็นการทำความสะอาดและบำรุงเท้าชุดใหญ่ แต่ในความเป็นจริงแล้ว แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้แสดงความเป็นห่วงว่า อุปกรณ์ต่างๆ ที่ทางร้านได้นำมาทำเล็บเท้าให้เรา ไม่ว่าจะเป็นคีมตัดหนังกำพร้า กรรไกรตัดเล็บ ตะไบเล็บ รวมทั้งผ้าขนหนูซับน้ำ จะสะอาดปลอดเชื้อโรคได้ 100% เต็มจริงๆ หรือเปล่า 

          เพราะถึงแม้ว่าทางร้านจะมีขั้นตอนการทำความสะอาดที่น่าไว้ใจ แต่อย่างไรก็ตาม เชื้อโรคที่อยู่ในเล็บเท้าของเรานั่นมีอยู่มากมายหลายชนิด และอุปกรณ์เหล่านี้ยังถูกนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้งกับผู้รับบริการหลายคนอีกด้วย ดังนั้น ทางที่ดีเราควรนำอุปกรณ์ทำเล็บเท้าส่วนตัวของเราไปเอง จะได้อุ่นใจได้ในระดับหนึ่ง

          แต่การป้องกันเพียงแค่นั้นก็อาจยังไม่เพียงพอ เพราะในอ่างน้ำที่เขาให้เราแช่เท้านั้น ก็แอบแฝงไปด้วยเชื้อโรคจากเท้าของเรา ว่ายวนอยู่เต็มไปหมด ดังนั้น ก็ควรหลีกเลี่ยงที่จะแช่เท้าเป็นเวลานานด้วย 

          นอกจากนี้ หลังจากทำสปาเท้าเสร็จใหม่ๆ ผิวเท้าเราจะบอบบางมาก จึงไม่ควรใส่รองเท้าแตะ หรือรองเท้าที่เปิดเผยเนื้อเท้ามากๆ ด้วย เพราะอาจเสี่ยงได้รับบาดเจ็บที่เท้าได้ง่ายๆ และควรดูแลรักษาความสะอาดเท้าให้ดี ด้วยการล้างเท้าทุกครั้งหลังกลับมาจากข้างนอก เพื่อป้องเชื้อโรคเข้าสู่เท้าเราด้วยค่ะ

 

 3. แว็กซ์ขนคิ้ว

 

          เราแว็กซ์ขนคิ้วเพื่อกำจัดคิ้วส่วนเกินออกไป เพื่อให้คิ้วสวยได้รูป แต่หารู้ไม่ว่า น้ำยาแว็กซ์ขนนั้นสามารถทำลายรูขุมขนเรา ทำให้ขนไม่ขึ้นอีกต่อไปได้ในระยาว แต่ผลกระทบในระยะสั้นก็คือ อาจทำให้ผิวไหม้จากแว็กซ์ที่มีความร้อนมากเกิน หรือผิวลอกเพราะแว็กซ์ที่แรงเกินไป และผิวติดเชื้อแบคทีเรียได้ง่ายขึ้นจากการที่ผิวบอบบางลง

          โดยเฉพาะกับผู้ที่ใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของเรตินอล ซึ่งจะมีผิวหน้าบางมากกว่าปกติ เสี่ยงเกิดรอยไหม้หรือผิวลอกได้ง่ายขึ้น ดังนั้น หากรู้ตัวว่าใช้เครื่องสำอางประเภทนี้อยู่ ก็ควรต้องหยุดใช้ประมาณ 1 อาทิตย์ก่อนทำการแว็กซ์ขนคิ้ว หรือทางที่ดีก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะแว็กซ์ดีกว่าค่ะ

          นอกจากนี้ ก่อนจะทำการแว็กซ์ขนคิ้ว ก็ควรต้องแน่ใจก่อนว่าผู้ให้บริการกับเรามีความเชี่ยวชาญเพียงพอ และได้รับใบอนุญาตประกอบการมาแล้ว หรือถ้าไม่แน่ใจว่าน้ำยาแว็กซ์ขนที่ร้านเสริมสวยใช้นั้นปลอดภัย จะเลี่ยงมาใช้แว็กซ์จากธรรมชาติ อย่างเช่นแว็กซ์น้ำตาลก็ดีค่ะ ปลอดภัยกับร่างกายกว่ากันเยอะเลย

 

 4. สปามือ

 

          สปามือก็คล้ายๆ กับสปาเท้า ที่ถึงแม้จะทำให้มือเราดูสุขภาพดีและสวยงาม แต่ก็แฝงไปด้วยอันตรายมากมาย เช่น การติดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย หรืออาจจะร้ายแรงถึงขึ้นมือและเล็บเสียโฉมไปเลยก็ได้ 

          ดังนั้น หากคุณตัดสินใจทำสปามือ สิ่งแรกที่ควรจะมองก็คือ ความสะอาดของร้าน ความสะอาดของอุปกรณ์ ที่จัดเก็บอุปกรณ์ ขวดน้ำยาที่ใช้ว่ามีฉลากหรือเปล่า หรือทางที่ดีก็พกอุปกรณ์ตัดเล็บไปเองเลยจะดีกว่า และควรจะคอยระวังไม่ให้ช่างตัดเล็บตัดหนังกำพร้าออกไป รวมถึงอย่าปล่อยให้เขาตัดเล็บเราจนสั้นเกินไปด้วย เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เล็บมือเสี่ยงได้รับเชื้อโรคได้โดยง่าย 

          หลังจากทำสปามือเสร็จแล้ว ให้สังเกตความผิดปกติของนิ้วมือด้วย หากเกิดรอยแดง รอยดำ หรือร่องรอยสีเหลืองติดอยู่บนเตียง ผ้าเช็ดตัว หรือหากรู้สึกว่าเล็บมือผิดรูปไป ให้รีบไปพบแพทย์ด่วนเลยค่ะ

 

 5. ทำเล็บแบบเจล

          เป็นสปาเล็บที่มีสาวๆ นิยมทำกันไม่น้อย เพราะจะได้ผลลัพธ์เป็นเล็บที่มีความมันวาวสวยงาม แต่ที่น่าตกใจก็คือ การทำเล็บแบบเจล ก็อาจจะทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งโรคผิวหนังได้ เนื่องจากเครื่องอบเล็บไฟฟ้า จะส่ง UV-A มายังผิวหนัง เป็นเหตุให้อาจเกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้นั่นเอง

          นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านเล็บยังแนะนำอีกด้วยว่า ควรเลือกร้านทำเล็บที่มีใบอนุญาตประกอบการและเลือกช่างที่มีความชำนาญมากพอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดอย่างไม่คาดคิดขึ้นกับเล็บและนิ้วมือคุณได้

 

 6. บำรุงผมด้วย BB (Brazilian Blowouts)

          BB หรือ (Brazilian Blowouts) เป็นทรีทเม้นท์ผมชนิดหนึ่ง ที่ทำให้ผมเงางาม และนุ่มสลวยได้ในระยะเวลาหนึ่ง แต่อันตรายจากการทำสวยด้วยวิธีนี้คือ ใน BB จะมีสารฟอร์มาลดิไฮด์ (formaldehyde) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ ฟอร์มาลินนั่นเอง ซึ่งหากสูดดมเข้าไปในปริมาณมาก อาจสร้างความระคายเคืองต่อเยื่อบุตา เยื่อบุจมูก และทางเดินหายใจ หรือหากมีความเข้มข้นสูงมาก ๆ ตั้งแต่ 100 ppm ขึ้นไป ก็อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต และหากมีการสัมผัสถูกสารละลายโดยตรงทางผิวหนัง จะทำให้เกิดผิวหนังอักเสบ เกิดอาการคันทันทีค่ะ

.

 7. บิกินีแว็กซ์

          แว็กซ์ทุกชนิดมีความสามารถในการทำลายผิวเหมือนกันหมด โดยเฉพาะแว็กซ์จากสารเคมี ที่อาจสร้างความระคายเคืองแก่ผิวหนัง รอยแดง รอยไหม้ ผิวบางลง เป็นเหตุให้ติดเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย และหากไม่อยากเสี่ยงกับการแว็กซ์ที่ไม่ได้คุณภาพ เช่น ไม่สะอาด ไม่ถูกวิธี ก็ควรต้องใส่ใจในทุกกระบวนการทำบิกินีแว็กซ์ด้วย อย่าลืมตรวจสอบใบอนุญาตผู้ประกอบการของร้าน รวมไปถึงใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของช่างผู้ให้บริการคุณ เพราะช่างที่ได้รับการอบรมวิชาชีพมาโดยเฉพาะ จะให้บริการได้อย่างถูกขั้นตอน ลดอันตรายจากการบาดเจ็บในระหว่างแว็กซ์ได้อีกด้วย

          อย่างไรก็ดี หลังจากทำบิกินีแว็กซ์ไปแล้ว ก็ควรต้องรักษาความสะอาดผิวบริเวณนั้นอย่างระมัดระวัง และหากเกิดความผิดปกติอะไร ก็ควรไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดค่ะ

 

 8. บำรุงผิวหน้า

          การบำรุงผิวหน้าก็เป็นทรีทเม้นท์ยอดฮิตที่สาว ๆ รวมไปถึงหนุ่ม ๆ ให้ความสนใจ ซึ่งก็อาจเกิดอันตรายกับร่างกาย เช่น การติดเชื้อได้เช่นกัน โดยเฉพาะหากได้รับการบริการจากบุคคลที่ไม่ได้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้

          ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่า ควรเลือกสถาบันดูแลผิวหน้าและช่างที่มีการรับรองคุณภาพ และมีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ นอกจากนี้ควรถามกับช่างตรง ๆ ไปเลย ว่าเขามีความเชี่ยวชาญกับเครื่องไม้เครื่องมือที่จะต้องนำมาใช้กับคุณแค่ไหน และควรดูความสะอาดบริเวณรอบ ๆ ห้องให้บริการ รวมไปถึงเครื่องมือและอุปกรณ์ทุกชนิดในนั้นให้ดีด้วย

          สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย อย่าลืมขอให้เขาตรวจสอบอาการแพ้ก่อนการใช้ผลิตภัณฑ์ทรีทเม้นท์ด้วยนะคะ

 

 9. ทำผิวสีแทน

          การเข้าอบในตู้ยูวี เพื่อทำให้ผิวกลายเป็นสีแทน เป็นอันตรายต่อสุขภาพมาก ๆ และอาจเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้มากถึง 55% โดยเฉพาะกับคนที่มีผิวบาง และมีปัจจัยเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งอยู่แล้ว ซึ่งอาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งได้มากขึ้นด้วยค่ะ

          การทำทรีทเม้นท์หรือทำสวยด้วยวิธีต่าง ๆ ก็เหมือนเป็นดาบสองคม ที่มีทั้งผลดีและผลเสีย ซึ่งก็แล้วแต่ความพอใจของแต่ละบุคคล และคงต้องพิจารณากันด้วยตัวเองอย่างถี่ถ้วนนะคะ แต่ถ้าอยากสวยอย่างปลอดภัย วิธีธรรมดาอย่างการออกกำลังกายและการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ก็ยังมีนะจ๊ะ แถมไม่ต้องเสียเงินแพง ๆ ด้วยล่ะ

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก :: http://health.kapook.com

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *