ทำไมจึงใช้หอยสังข์ในพิธีแต่งงาน

          เรามักเห็นการใช้หอยสังข์ในงานพิธีมงคลต่างๆ เช่น พระราชพิธีราชาภิเษก ตอนที่พระมหาราชครูผู้เป็นประทานคณะพราหมณ์ได้ถวายน้ำมหาสังข์แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในงานพิธีมงคลต่างๆ ซึ่งจัดขึ้นในบ้านเรือนของประชาชนชาวไทยเรา เช่น งานมงคลสมรส เป็นต้น เรามักจะได้พบเห็นหอยสังข์ซึ่งใช้เป็นที่รดน้ำแก่คู่บ่าวสาว เพื่อจะให้อยู่เย็นเป็นสุข

          สาเหตุที่ใช้หอยสังข์ในงานพิธีมงคลต่างๆ เนื่องจากศาสนาพราหมณ์เชื่อว่าสังข์เป็นของศักดิ์สิทธิ์ มีสีขาว อีกทั้งเปลือกของหอยเวียนขวา เมื่อเทน้ำออกมา น้ำก็จะไหลเวียนขวาอันเป็นทิศที่เป็นมงคล

          แต่ก็มีความเชื่ออีกด้านหนึ่งว่ามาจากเรื่องเล่าปรัมปราว่า มียักษ์สังข์อสูรตนหนึ่ง ได้ขโมยและกลืนเอาพระเวทของพระพรหมเข้าไป แต่พระนารายณ์เป็นผู้ล้วงเอาพระเวททั้งหมดคืนมาทางปาก และสาปให้ยักษ์สังข์อสูรตนนั้นมีรูปร่างเป็นหอยสังข์ และจะต้องอยู่ในน้ำตลอดไป จนถึงเวลาที่มนุษย์จัดงานมงคล จึงจะจับหอยสังข์ขึ้นมาและให้ร่วมอยู่ในพิธีด้วย ดังนั้นการประกอบพิธีมงคลใดๆ หอยสังข์จึงกลายเป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ เพราะหอยสังข์เคยเป็นที่บรรจุพระเวทต่างๆ ครบทุกพระเวทไว้ จึงเชื่อกันว่าสิ่งที่ออกมาจากหอยสังข์ทุกอย่างล้วนเป็นมงคล ไม่ว่าเป็นการรดน้ำสังข์ของคู่บ่าวสาว เพื่อให้เกิดเสียงที่นำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลนั่นเอง

          นอกจากนี้ พระนารายณ์ซึ่งเป็นเทพเจ้าของศาสนาพราหมณ์ ในแต่ละกรยังถือ คทา จักร สังข์ และดอกบัว ซึ่งคนไทยเราก็รับธรรมเนียมดังกล่าวมาจากศาสนาพราหมณ์ คนไทยมักใช้หอยสังข์ในงานพิธีต่างๆ โดยเฉพาะในพิธีมงคลสมรสที่ใช้หอยสังข์ในการรดน้ำให้กับบ่าวสาว เพราะเชื่อกันว่าหอยสังข์จะช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลและนำความเจริญมาสู่บ่าวสาว นอกจากนี้ในการวางศิลาฤกษ์ต่างๆ ยังมีการเป่าสังข์ให้ได้ยินเสียง เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลอีกด้วย

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก :: iKnowledge จาก Msolution

Tags: พิธีแต่งงาน, รดน้ำสังข์, หอยสังข์

ทำไมจึงใช้น้ำมะพร้าวล้างหน้าคนตาย

          เมื่อถึงเวลาเผาศพมีการเอามะพร้าวผลหนึ่ง กระเทาะเปลือกแล้วต่อยเอาน้ำรดล้างหน้าศพในโลง อธิบายเชิงปริศนาธรรมว่า น้ำมะพร้าวมีเครื่องห่อหุ่มหลายชั้น เป็นของสะอาดผิดกับน้ำธรรมดา ซึ่งขุ่นระคนไปด้วยเมือกตม เปรียบด้วยกิเลสราคาที่ดองสันดานอยู่ ที่เอาน้ำมะพร้าวล้างหน้าศพก็หมายความว่า เอาสิ่งที่สะอาดจริงๆ ล้างสิ่งโสโครก เอากุศลกรรมล้างอกุศลกรรม

          มะพร้าวนั้น คติของคนอินเดียในมัธยมประเทศถือว่าเป็นผลไม้ศักดิ์เรียกว่า ‘ศรีผล’ หรือผลไม้ที่มีสิริ มะพร้าวเป็นเครื่องหมายของความอุดมสมบูรณ์มักมีไว้ที่แท่นบูชา ในหนังสือ Anthro pos. กล่าวถึงสันตยาสีตนหนึ่งที่เมืองบอมเบย์ เมื่อรู้ตัวว่าจะตายก็สั่งให้พวกศิษย์พยุงตนขึ้นนั่งในหลุม ซึ่งขุดเตรียมไว้และโรยเกลือไว้ทั่ว พอจวนจะสิ้นใจ ศิษย์คนหนึ่งเอามะพร้าวห้าวหรือหินกระแทกศรีษะสันตยาสีอย่างแรง เพื่อให้ขม่อนแยกอาตมันจะได้หนีออกทางนั้นไปทางเบื้องสูง ถ้าไม่เช่นนั้นเวลาตาย อาตมันจะหนีออกทางทวารหนัก ถือว่าเป็นเรื่องไม่ดีเป็นเครื่องหมายคนบาป เรื่องต่อยขม่อนให้แตกมักทำแก่ผู้ตายที่เป็นสันตยาสีเหมือนกัน เพราะถือว่าโยคีเข้าโยคะเป่ง ถึงกับขม่อมประทุเพื่อให้อาตมันออกไป

          เรื่องทุบกระโหลกมะพร้าวของไทยคงได้รับอิธิพลนี้จากพวกฮินดู แทนที่จะต่อยกระโหลกคนก็ต่อยกระโหลกมะพร้าวแทน

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก :: iKnowledge2 (ความรู้รอบตัว) จาก Msolution

Tags: น้ำมะพร้าว, น้ำมะพร้าวล้างหน้าคนตาย, ล้างหน้าคนตาย

ทำไมจึงเรียกเลข 2 ว่าโท

    แต่ก่อนในอดีตเรามักเรียกเลข 2 ของหมายเลขโทรศัพท์ว่า “โท” เนื่องจากเรียกตามทหารเรือ เพราะตามปกติเรือที่ปฏิบัติงานอยู่กลางทะเลย่อมมีเสียงคลื่นลมและเครื่องจักรรบกวนการสั่งงานอยู่เสมอ การพูดจาตอบโต้จึงต้องตะโกนหรือใช้เสียงดังกว่าปกติ และบางครั้งการออกเสียงพยัญชนะหรือเสียงสระที่คล้ายคลึงกันทำให้การได้ยินเกิดความคลาดเคลื่อนขึ้นได้ เช่น “เอ็ด” ซึ่งคล้ายกับ “เจ็ด” และ “สอง” ที่เป็นเสียง “ส” เช่นเดียวกับ “สาม” ทำให้ทหารเรือมักได้ยินคลาดเคลื่อน

          เพื่อความถูกต้องและชัดเจน ทหารเรือจึงออกเสียง “หนึ่ง” แทน “เอ็ด” เสมอ เช่น 11 อ่าน สิบหนึ่ง, 21 อ่าน ยี่สิบหนึ่ง ส่วนเลข 2 ทหารเรือจะออกเสียงว่า “โท” แทน ซี่งได้คำว่า “โท” มาจากวรรณยุกต์ในภาษาไทยที่เรียงลำดับจาก เอก โทร ตรี จัตวา ซึ่งลำดับที่ 2 เป็นคำว่า “โท” ด้วยเหตุนี้จึงเรียกเลข 2 เป็นคำว่า “โท” และต่อมาศัพท์ของทหารเรือได้เผยแพร่มายังภายนอก เมื่อกรมพระกำแพงเพชรอัครโยธินทรงนำโทรศัพท์แบบต่อเอง (Automatic Telephone System) มาใช้ในประเทศไทย คนทั่วไปจึงพลอยเรียกหมายเลขโทรศัพท์ที่มีเลข 2 ว่า “โท” ไปด้วย เพื่อกันความผิดพลาดเวลาที่ต้องบอกหมายเลขโทรศัพท์ซึ่งมีเลขหลายตัว

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก :: iKnowledge จาก Msolution

Tags: 2, เลข 2, เลข 2 ของหมายเลขโทรศัพท์, เลขสอง, เลขโท, โท

ทำไมคอยีราฟจึงยาว ?

          ยีราฟมีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกา บริเวณเขตทุ่งหญ้าและเขตชายป่าทางตอนใต้ในทะเลทรายซาฮารา เป็นสัตว์ที่มีรูปร่างสูงที่สุดในโลกในบรรดาสัตว์ที่ยังมีชีวิตอยู่ ตัวเมียสูงประมาณ 4 เมตร ตัวผู้สูงที่สุดประมาณ 7 เมตร

          สาเหตุสำคัญที่ทำให้ยีราฟมีรูปร่างที่สูงนั้นเป็นเพราะคอที่ยาวของมัน ทั่วไปจะยาวประมาณ 2 เมตร จริงๆ แล้วบรรพบุรุษของยีราฟไม่ได้คอยาวเท่าปัจจุบัน เป็นเพราะในอดีตที่นานแสนนานมาแล้วสภาพแวดล้อมที่ยีราฟอาศัยอยู่มีการเปลี่ยนแปลงคือ เกิดภัยแล้ง หญ้าเขียวบนพื้นดินค่อยๆ หายากขึ้น ยีราฟจึงต้องกินใบไม้บนต้นไม้แทน ทุกๆ วันมันจะต้องออกแรงยืดคอเพื่อกินใบไม้บนต้นไม้แทน นานวันเข้า คอของมันจึงยาวขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งเมื่อได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรมต่อกันมา คอของยีราฟในรุ่นหลังๆ จึงยาวขึ้น

          จริงๆ แล้ว คอที่ยาวๆ ของยีราฟก็มีข้อเสีย เพราะคอที่ยาวเกินกว่าอากาศในส่วนปอดจะไหลผ่านไปถึงเส้นเสียงนั้น ก็ไม่มีเสียงออกมาแล้ว ยีราฟจึงส่งเสียงเหมือนสัตว์ประเภทอื่นไม่ได้

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก :: iKnowledge จาก Msolution

Tags: คอยีราฟยาว, ยีราฟ, ยีราฟคอยาว

ทำไมของ 1 โหลต้องมี 12 ชิ้น

 

          จำนวน 12 ในหนึ่งโหลของไทยนั้นสัมพันธ์กับระบบนับจำนวนของต่างชาติ ซึ่งมีคำว่า “dozen” (โดซเซ่น) หมายถึง 12 เช่นเดียวกัน

          ย้อนกลับไปหาที่มาคำว่า “dozen” ถือกำเนิดจากชาวสุเมเรียนในเมโสโปเตเมีย ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นชนชาติแรกที่สร้างสัญลักษณ์การนับตัวเลขในชีวิตประจำวันด้วยการเปล่งเสียงเรียก

          ต่อมาในช่วง 3,100 ปีก่อนคริสตกาล ชาวสุเมเรียนเขียนจำนวนตัวเลขเป็นรูปลิ่ม และสร้างระบบจำนวนขึ้นมา จากฐาน 60 ซึ่งง่ายต่อการหารด้วยจำนวนต่างๆ แบ่งเป็นแฟ็กเตอร์ (ส่วนที่คูณกันขึ้นเป็นจำนวน) ได้แก่ 2, 3, 4, 5, 6, 10, 12, 15, 20, และ 30 คำว่า “dozen” มีความหมายมาจาก “5 ส่วนของ 60″ (12 คูณ 5 เท่ากับ 60) ภาษาละตินหมายถึง 12

          ขณะที่ชาวโรมันถือว่าเลข 12 เป็นเลขศักดิ์สิทธิ์ จึงนำมาสร้างระบบการนับปี แบ่งให้มี 12 เดือน ส่วนพ่อค้าแม่ขายในในสมัยโบราณก็นิยมใช้ 12 ขายของ เพราะสะดวกและแยกส่วนได้ง่ายกว่าเลข 10 และใช้เรื่อยมาจนทุกวันนี้

          นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าว่า ในช่วงยุคกลางของอังกฤษ พ่อค้าขนมปังจะต้องถูกลงโทษหนัก หากตัดขายขนมปังในน้ำหนักที่ต่ำกว่าความเป็นจริง ขณะที่พ่อค้าขนมปังในยุคนั้นก็ไม่ได้มีความรู้นับจำนวนอะไร กลัวจะพลาดระหว่าง 11 ก้อนกับ 12 ก้อน จึงหันไปใช้วิธีกันเหนียว คือตัดขนมปัง 13 ก้อน เวลาที่จะขายขนมปังหนึ่งโหล กรณีนี้หนึ่งโหลเลยมี 13 ชิ้น ซึ่งไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก

          ส่วนนักจิตวิทยาบางคนเคยทดสอบความแตกต่างระหว่างคนที่ชอบเลข 12 มากกว่าเลข 10 ว่าเป็นคนที่ยืดหยุ่นและอ่อนโยนกว่า อันนี้ก็ฟังไว้เล่นๆ ได้ ข้อมูลจากเว็บไซต์วิกิพีเดียระบุว่า โหลมาจากภาษาอังกฤษว่า “Dozen” รากศัพท์ภาษาละตินว่า “duodecim” เชื่อว่าเป็นการนับเลขรวมกลุ่มแบบแรกๆ เพราะตัวเลข 12 มาจากฐานการนับรอบดวงจันทร์โคจรรอบดวงอาทิตย์ รู้จักว่าเป็นระบบจำนวนฐานสิบสอง หรือ “ทวาทิศนิยม” (duodecimal system) 12 โหลเรียกว่า 1 กุรุส (a gross) การนับโหลสะดวกสบาย เพราะตัวคูณและพหุคูณคิดได้ง่าย เช่น 12 เท่ากับ 3 X 2 X 2 หรือ 360 เท่ากับ 20 X 3 (ตอบเมื่อ 23 ม.ค. 2545)

ขอขคุณข้อมูลดีๆ จาก :: รู้หรือไม่ จาก Msolution

ที่มา : คอลัมน์รู้ไปโม้ด โดยน้าชาติ ประชาชื่น จาก sanook.com

ทำไมขวดไวน์ต้องวางแนวนอน

          สงสัยมั้ยครับว่าทำไวน์ที่วางขายอยู่ในร้านจึงต้องวางขวดในแนวนอน การวางขวดไวน์ในแนวนอนมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้น้ำไวน์ที่อยู่ภายในขวดสามารถหล่อเลี้ยงจุกก๊อกที่ปากขวดให้เปียกชุ่มอยู่ตลอดเวลานั่นเอง ซึ่งเป็นวิธีป้องกันไม่ให้อากาศจากภายนอกไหลซึมผ่านจุกก๊อกเข้าไปภายในขวด เพราะถ้ามีอากาศซึมผ่านเข้าไปในขวด อากาศจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับน้ำไวน์ในขวดทำให้ไวน์เสีย ร้านขายไวน์จึงจำเป็นต้องวางไวน์ในแนวนอนเพื่อรักษาอายุของไวน์ไว้

          ส่วนการดูอายุของไวน์ ถ้าเป็นไวน์ขาวจะมีความสมบูรณ์ในช่วงห้าถึงหกปีนับจากวันที่ผลิต โดยแรกเริ่มไวน์ขาวจะมีสีเหลืองตองอ่อนเมื่ออายุเพิ่มขึ้นจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเข้ม เมื่อใกล้หมดอายุจะกลายเป็นสีน้ำตาลเข้ม ส่วนไวน์แดงจะมีอายุยืนยาวกว่าไวน์ขาว แรกเริ่มจะมีสีแดงอมม่วง จากนั้นจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงสด ซึ่งเป็นช่วงที่พร้อมดื่มและจะกลายเป็นสีแดงอมน้ำตาลและชีดลงเรื่อยๆ จนออกสีส้มเมื่อหมดสภาพ

          ส่วนการดื่มไวน์ควรดื่มที่ระดับความเย็นราว 8-12 องศาเซลเซียสซึ่งเป็นระดับที่ช่วยลดความเป็นกรดของไวน์และให้ความสดชื่นที่สุด

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก :: iKonwlenge จาก Msolution

Tags: ขวดไวน์, แนวนอน, ไวน์

ทางม้าลายแต่ก่อนไม่ได้เป็นสีขาว-ดำ

          “ทางม้าลาย” สัญลักณ์สำหรับคนเดินเท้าไว้ข้ามถนน รู้ไหม? แต่ก่อนทางม้าลายไม่ได้เป็นสีขาว-ดำ เหมือนในปัจจุบันนี้ แต่เป็นสีน้ำเงิน-เหลือง โดยริเริ่มครั้งแรกในประเทศอังกฤษ เริ่มใช้กันตั้งแต่ปี ค.ศ.1939 ตามท้องถนนทั่วอังกฤษประมาณ 1,000 จุด เพื่อบ่งบอกให้ทราบว่าบริเวณดังกล่าวอนุญาติให้คนเดินทางเท้าข้ามถนนได้

          และมักนิยมทำทางม้าลายอยู่บริเวณเดียวกับสัญญาณไฟจราจร ในระยะแรกสัญญาณไฟจราจรจะเป็นสีน้ำเงิน-เหลือง จากนั้นได้ปรับเปลี่ยนเป้นสีขาว-แดง และเริ่มใช้สีขาว-ดำ ตั้งแต่ปีค.ศ.1951 เป็นต้นมา และเนื่องจากมีสีขาว-ดำ เหมือนลายลำตัวของม้าลาย เราจึงเรียกว่า “ทางม้าลาย”

          เมื่อทางการของอังกฤษใช้ทางม้าลายเป็นผลดีให้กับทางจราจรภายในประเทศของตนเองแล้ว ต่อมาอังกฤษจึงได้นำไอเดียนี้ไปใช้กับประเทศอาณานิคมของตนเอง เช่น สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เป็นต้น ทางม้าลายจึงกลายเป็นเครื่องหมายจราจรสากลที่ใช้แพร่หลายไปทั่วโลก

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก :: iKnowledge2 จาก Msolution

ทะเลสาปสีชมพู ที่เซเนกัล “ทะเลสาบเร็ตบา”

          ทะเลสาบเร็ตบา Retba (or Lac Rose)/ทะเลสาปสีชมพู ที่เซเนกัล ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของ Cap Vert คาบสมุทรจากเซเนกัล ตะวันออกเฉียงเหนือของดาการ์ สีของน้ำที่เปลี่ยนจะขึ้นอยู่กับเวลาของวัน ทะเลสาบจะเปลี่ยนสีจากสีม่วงอ่อนไปเข้มสีแดงสีชมพู โดยสีที่ผิดปกติของน้ำเกิดจากแบคทีเรียชอบเกลือ ไม่เป็นอันตราย และจะเจริญเติบโตในสภาพแวดล้อมที่มีความเค็มสูง ทะเลสาบสีชมพูนี้จะปรากฏเปลี่ยนสีให้เห็นเด่นชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูแล้ง

          เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษ เปิดเผยภาพปรากฎการณ์สุดน่าทึ่งของทะเลสาบในประเทศเซเนกัล ที่เปลี่ยนสีเป็นสีชมพูอันเนื่องมาจากแบคทีเรียปริมาณมากที่อาศัยอยู่ในน้ำเค็มจัดทำปฎิกิริยากับแสงอาทิตย์

          ทะเลสาบแห่งนี้ชื่อว่า “ทะเลสาบเร็ตบา” อยู่ในประเทศเซเนกัล ทางตะวันตกของทวีปแอฟริกา เป็นทะเลสาบที่มีปริมาณเกลือสูงมาก บางพื้นที่ของทะเลสาบมีเกลือถึง 40 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว และในน้ำทะเลแห่งนี้ยังมีแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่ผลิตสารสีแดงในการดูดซับแสงอาทิตย์กระจายอยู่เต็มไปหมด จึงทำให้น้ำในทะเลสาบแห่งนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงอ่อนๆ ในตอนกลางวัน และยิ่งเมื่อทะเลสาบต้องแสงแดด มันก็ยิ่งกลายเป็นสีชมพูนมเย็นได้อย่างน่าทึ่ง

          ทางด้านนายไมเคิล แดนสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านแบคทีเรียเอ็กซตรีมโมไพล์ จากมหาวิทยาลัยบาธ ได้เปิดเผยว่า “สี นมสตรอเบอร์รี่ในทะเลสาบแห่งนี้ เกิดจากแบคทีเรีย Dunaliella ซึ่งชอบอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เค็มจัด พวกมันจะผลิตสารสีแดงออกมา เพื่อช่วยในการดูดซับพลังงานจากแสงอาทิตย์ที่จะนำไปใช้ในการสร้างพลังงานมากขึ้น ดังนั้น เมื่อแดดออก น้ำทะเลก็เปลี่ยนเป็นสีชมพูอย่างที่เห็น และทะเลสาบเร็ตบาแห่งนี้ ก็เค็มเหมือนกับทะเลสาบเดดซี มันมีเกลือในปริมาณมาก จนทำให้เราลอยอยู่ในน้ำได้”

          นอกจากนี้ ไมเคิล แดนสัน ยังเปิดเผยอีกว่า ครั้งหนึ่ง ทะเลสาบเร็ตบาแห่งนี้ถูกเชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่สิ่งมีชีวิตไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ เพราะมันเค็มมาก แต่ใครเลยจะรู้ว่ามันเป็นทะเลสาบที่มีสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก หรือจุลชีพอาศัยอยู่มาก และมันก็มีชีวิตชีวามากเลยทีเดียว

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก :: http://webboard.yenta4.com/topic/524967

Tags: ทะเลสาบเร็ตบา, ทะเลสาปสีชมพู

ถุงยางอนามัยเบคอน รสชาติใหม่ที่ต้องลอง!

          ‘เบคอน’ เนื้อหมูติดมันสามชั้นรสชาติหวานมันอันเป็นที่ถูกใจของใครหลายๆ คน โดยเฉพาะเวลาที่เอาไปปิ้งหรือทอดก็กรุบกรอบอย่าบอกใคร ดังนั้นทาง J & D’s Foods เลยนำเอาเบคอนมาพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น อย่างเช่น เกลือ ซอส ขนมป๊อบคอร์น รวมไปถึงลิปบาล์ม ทุกอย่างล้วนใช้เบคอนมาเป็นส่วนผสมทั้งสิ้น ซึ่งตัวที่เด็ดที่สุดในบรรดาสินค้าของทางร้านก็คือ “ถุงยางอนามัยเบคอน” ที่ทำเอาบรรดาผู้ผลิตถุงยางอนามัยและผู้ชายหลายต่อหลายคนตะลึงงันกันไปเลยทีเดียว  

           ทั้งนี้ในตอนแรกพวกเขาบอกว่าตั้งใจจะผลิตถุงยางรุ่นนี้มานานแล้ว แต่ยังไม่กล้าพอ จนกระทั่งสามารถผลิตสารหล่อลื่นออกมาก่อนได้เป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นก็ร่วมกันคิดค้นจนได้ถุงยางอนามัยกลิ่นเบคอนออกมา โดยถอดแบบมาจากเบคอนจริงแทบทุกประการ ทั้งรูปลักษณ์ภายนอกที่ได้ไอเดียมาจากส่วนของเนื้อแดงและชั้นไขมันสลับปะปน กันไปลายเดียวกับของจริงเป๊ะๆ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงกลิ่นหอมๆ ของเนื้อเบคอนด้วย 

 

           นอกจากนี้ผู้ใช้ก็ไม่ต้องกลัวว่าเบคอนชิ้นนี้จะบูดเน่า ขึ้นรา หรือติดเชื้อ เนื่องจากทีมผู้ผลิตเลือกใช้ยางคุณภาพสูงมาทำ ฉะนั้นจึงมั่นใจได้ในความปลอดภัยในระหว่างบรรเลงเพลงรักบนเตียง ซึ่งในแต่ละกล่องมีให้ลิ้มรส 3 ชิ้นด้วยกัน สนนราคาอยู่ที่ 10 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 280 บาท นอกจากจะน่าลองแล้วราคาก็น่าซื้อด้วย ซึ่งตอนนี้ก็เปิดให้จับจองกันแล้วที่เว็บไซต์ store.baconsalt ก็ไม่รู้ว่างานนี้จะชื่นชมในความคิดสร้างสรรค์ หรือความแปลกของทางร้านทาง J & D’s Foods ดี แต่ที่แน่ๆ เชื่อว่าหนุ่มๆ หลายคนแอบกดไลท์อยู่ในใจอย่างแน่นอน 

.

.

.

.

.

.

Tags: J&D’s Foods, ถุงยางอนามัย, ถุงยางอนามัยเบคอน

ดื่มน้ำขิงแก้อาการปวดท้อง

 

 

          สมุนไพรที่ชื่อว่า “ขิง” นั้นแสนมหัศจรรย์ มีสรรพคุณมากมายหลายขนาน เช่น แก้อาการปวดท้องจากโรคกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น

          เรามีสูตรน้ำขิงมาแนะนำดังนี้

          วิธีทำ 1.ใช้ขิงสด 50 กรัม ล้างให้สะอาด

                    2. ทุบให้แหลก ใส่หม้อ เติมน้ำลงไป 300 ซีซี

                   3. ต้มนาน 30 นาที

          วิธีดื่ม หลังอาหาร วันละ 3 ครั้ง

          หลังดื่มน้ำขิง อาการปวดจะน้อยลงหรือหายไป เพราะกรดในกระเพาะอาหารจะเจือจางลง อุจจาระจะไม่เป็นสีดำ และกินอาหารได้มากขึ้นแต่ไม่สามารถรักษาอาการให้หายขาดได้ ต้องกินยาที่มีสรรพคุณในการรักษาเช่นขมิ้นชันร่วมด้วย

          แต่ทางที่ดีควรแก้ไขที่ต้นเหตุ คือปรับพฤติกรรมการกิน ทั้งกินให้ตรงเวลาและเลือกอาหารที่ไม่ทำร้ายกระเพาะจะดีกว่า

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก :: www.cheewajit.com/health.asp

Tags: ดื่มน้ำขิง, น้ำขิง, อาการปวดท้อง, แก้อาการปวดท้อง