อะไรคือตัวการสำคัญที่ทำให้คุณทำงานช้าลง

          เคยสังเกตไหมว่าทำไมเพื่อนร่วมงานบางคนของคุณทำงานได้รวดเร็วฉับไวเสียจริงๆ แถมยังเป๊ะไม่มีพลาดอีกต่างหาก แต่พอลองมาดูตัวเองแล้ว กลับพบข้อผิดพลาดมากมาย รวมทั้งใช้เวลามากกว่าเขาเป็นเท่าตัวเสียด้วยซ้ำ ที่เป็นแบบนี้อาจเพราะคุณกำลังเสียสมาธิกับเรื่องงานจากการรบกวนของสิ่งเหล่านี้อยู่ก็เป็นได้ ซึ่งตัวขัดขวางการทำงานที่ว่าจะมีอะไรบ้างนั้น ลองมาดูข้อมูลที่นำฝากกันเลยดีกว่า

 

 

 

 

     1. โทรศัพท์มือถือ

 

         จริงอยู่ว่าสมัยนี้คนเราแทบขาดมือถือกันไม่ได้เลยทีเดียว เพราะมือถือเครื่องเดียวสามารถใช้ทำอะไรได้ตั้งหลายอย่าง จะดูหนัง ฟังเพลง เล่นอินเทอร์เน็ต หรือแชทคุยกับเพื่อนก็ได้ทั้งนั้น แต่ควรเก็บไว้เล่นนอกเวลางานดีกว่าไหม เพราะเจ้าเครื่องมือสื่อสารเล็กจิ๋วนี่เป็นตัวการสำคัญที่รบกวนสมาธิได้ดีเชียว จากการที่คุณเอาแต่คอยจดจ้องรอแชทรอดูข้อความใหม่ ๆ จากเพื่อน ๆ อยู่ตลอด หรือแม้แต่เล่นเกมเก็บของ แล้วแบบนี้จะเอาเวลาไหนไปทำงานล่ะ

 

     2. ท่องเว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์ก

 

         ใครรู้ตัวว่าชอบเข้าเว็บไซต์เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊กหรือทวิตเตอร์ ก็ปิดไปได้แล้วล่ะ เพราะเวลาเล่นบางทีมันหยุดไม่ได้จริง ๆ นะ ลองสังเกตดูสิว่าคุณใช้เวลากับมันนานเท่าไหร่ในแต่ละวัน แม้คุณจะมองว่าตัวเองเพียงแค่ส่องดูความเคลื่อนไหวของเพื่อน ๆ แค่แป๊บเดียวเท่านั้น แต่ถ้าเอาเวลาที่คุณเล่นไปรวม ๆ กันดู ก็มากพอจะทำงานเสร็จได้หลายชิ้นเลยใช่ไหมล่ะ

 

     3. เช็กอีเมล

 

         การที่เราต้องมาคอยนั่งเช็กอีเมลที่เข้ามา และตอบกลับไปนั้นกินเวลาไม่ใช้น้อยเลยทีเดียว โดยกว่าจะตอบแต่ละทีเราก็ต้องอ่านอย่างละเอียด แล้วตอนที่พิมพ์ตอบกลับไปก็เสียเวลาไม่ใช่เล่น ดังนั้นถ้าคุณไม่ได้ทำงานที่จำเป็นต้องคอยเช็กอีเมลที่เข้ามาตลอดเวลา ก็ค่อยกลับไปนั่งเช็กอีเมลให้เสร็จเรียบร้อยที่บ้านดีกว่านะ

.

.

 

 

     4. แชทอย่างเมามันส์

 

          โปรแกรมแชทที่บริษัทเขาลงไว้ให้ที่เครื่องของคุณ มีไว้เพื่อให้คุณใช้ติดต่อเรื่องงานต่างหากล่ะ ไม่ได้ทำไว้นั่งเม้าท์กันสนุกปากหรือใช้จีบสาวสักหน่อย แถมเวลาที่คุณนั่งคุยผ่านโปรแกรมนี้นาน ๆ ยังกินเวลาไปมากอีกต่างหาก คุณจึงควรใช้ให้ถูกวิธี โดยเอาไว้ติดต่อเรื่องงานก็พอแล้ว ถ้าอยากคุยกันจริง ๆ ค่อยเก็บไว้คุยตอนช่วงพักก็ได้

 

      5. พักดื่มกาแฟ

 

         ยอมรับเถอะว่าเวลาที่คุณออกไปพักดื่มกาแฟเนี่ย คุณไม่ได้แค่เดินไปชงกาแฟแล้วกลับมานั่งจิบที่โต๊ะเฉย ๆ หรอก แต่คุณอดไม่ได้ที่จะเดินเอ้อระเหยฆ่าเวลา หรือพยายามทำอะไรช้า ๆ ให้เสียเวลามากหน่อยด้วยใช่ไหมล่ะ ซึ่งเวลาที่คุณใช้ตอนนั้น อาจมากพอจะทำงานเสร็จเพิ่มขึ้นสบาย ๆ จนได้กลับบ้านเร็วขึ้นเลยด้วยซ้ำ

 

     6. นั่งเม้าท์กับเพื่อนร่วมงาน

 

         จริงอยู่ว่าการคลายเครียดจากงานที่น่าปวดหัว ด้วยการเข้าไปร่วมวงเม้าท์กับเพื่อน ๆ บ้างก็คงดีไม่น้อยอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าเพื่อนของคุณเป็นคนช่างพูด เม้าท์ทีนานจนกินเวลางานก็คงไม่ไหวเหมือนกันนะ แถมถ้าเขาไปนินทาใครเข้า ยังอาจทำให้เรามีเอี่ยวกับเรื่องดราม่าที่ไม่อยากพบเจอเอาได้ง่าย ๆ อีกต่างหาก เพราะฉะนั้นคุณจึงควรจับกลุ่มคุยแค่พอเข้าสังคมหรือเลือกเวลาให้เหมาะสมก็พอแล้ว ไม่ต้องโม้นานเกินควร และถ้าเขาพูดเรื่องที่ไม่ควรพูด ก็ควรปลีกตัวออกมาแต่เนิ่น ๆ ด้วย

.

.

 

 

 

     7. ทานจุบจิบ

 

         หนุ่มออฟฟิศทั้งหลายอาจติดเอาขนมไปกินในระหว่างทำงานแก้เซ็งด้วย หรืออาจซื้อเอาตามร้านแถวที่ทำงานก็ได้ ซึ่งคุณควรรู้ไว้ว่าการออกมานั่งกินขนมพวกนี้กับเพื่อน ๆ นั้นจะกินเวลายาวนานกว่าที่คุณคิดแน่นอน จากการที่มีเพื่อนมาขอแบ่งไปกิน หรือชวนคุยโน่นนี่จนยาว แถมการนั่งกินจุุบจิบแบบนี้อยู่เรื่อย ๆ ยังเป็นการเพิ่มน้ำหนักจนคุณกลายเป็นหนุ่มอวบอย่างรวดเร็วอีกต่างหาก

 

     8. เอาเรื่องส่วนตัวมาปะปน

 

         เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ ที่คนเราต้องพบเจอกับเรื่องเศร้ากันเป็นธรรมดา ไม่ว่าจะสูญเสียคนรัก มีปัญหาฝืดเคืองเรื่องเงิน หรือทะเลาะกับใครสักคน แต่คุณควรแยกแยะ และไม่เอาเรื่องเหล่านั้นมาปะปนกับเรื่องงานเด็ดขาด เพราะคนที่คิดจะก้าวหน้าก็ต้องมีความเป็นผู้ใหญ่และหนักแน่นพอจะไม่ปล่อยให้ปัญหาส่วนตัวมารบกวนการทำงาน

 

     9. เปิดเพลงฟัง

 

         เข้าใจดีว่าบางทีการเปิดเพลงฟังคลอไปด้วย ก็ช่วยให้เรารู้สึกเพลินดีเหมือนกันใช่ไหมล่ะ แต่รู้ไว้เถอะว่าบางทีเพลงพวกนี้ก็กลายเป็นเสียงรบกวนได้เหมือนกัน หากคุณทำงานจำเป็นต้องใช้สมาธิจดจ่อมาก ๆ ซึ่งถ้าการฟังเพลงส่งผลกระทบจนทำงานผิดพลาดเสียหายขึ้นมาเมื่อไหร่ คุณอาจต้องแบกรับความรับผิดชอบเหนือความคาดหมายก็ได้

 

         และตอนนี้ในเมื่อคุณรู้แล้วว่าอะไรเป็นอุปสรรคขัดขวางการทำงานของตัวเอง ก็พยายามหลีกเลี่ยงซะนะครับ ความสำเร็จในหน้าที่การงานจะได้อยู่ใกล้แค่เอื้อมยังไงล่ะ

.

.

.

.

.

.

 

อวสาน Hotmail ไมโครซอฟท์เปิดตัว Outlook.com แล้ว

 

 

 

          ไมโครซอฟท์แจ้งว่าได้เริ่มย้ายบัญชีอีเมลใน Hotmail.com ไปยัง Outlook.com แล้วตั้งแต่วันนี้ โดยที่ข้อมูลต่างๆ ของผู้ใช้จะยังคงเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง 

          ไมโครซอฟท์แถลงเปิดตัวการปรับปรุงบริการอีเมลอย่างเป็นทางการว่า การย้ายบัญชีของผู้ใช้ Hotmail.com ไปยัง Outlook.com เป็นไปอย่างราบรื่นและอัตโนมัติ ข้อมูลทุกอย่างของผู้ใช้ตั้งแต่ที่อยู่อีเมล รหัสผ่าน รายชื่อผู้ติดต่อ และอื่นๆ จะคงเหมือนเดิม โดยผู้ใช้ที่ยังไม่ทำการอัพเดท ระบบจะทำการโอนข้อมูลทั้งหมดโดยอัตโนมัติไปยังระบบใหม่ภายในกลางปีนี้ 

          นอกจากนั้น ผู้ใช้ยังสามารถส่งไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ได้มากขึ้นกว่าเดิม เช่นการส่งไฟล์ภาพถ่ายได้หลายร้อยรูปพร้อมๆ กัน รายชื่อผู้ใช้จะอัพเดทข้อมูลการติดต่อกับโพสต์ในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์และสื่อสังคมออนไลน์อื่นๆ ให้โดยอัตโนมัติ รวมถึงจะมีโฆษณาน้อยลงกว่าเดิมถึง 60% 

          ไมโครซอฟท์ได้ประกาศตั้งแต่ปีก่อนแล้วว่า จะปรับปรุงบริการอีเมลให้รองรับผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ และให้สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และลิงก์อื่น อีกทั้งยังสามารถส่งภาพถ่ายและวิดีโอจำนวนมากได้ในข้อความเดียว โดยในช่วง 6 เดือนแรกที่ทดลองเปิด Outlook.com มีผู้ใช้บริการอย่างสม่ำเสมอมากถึง 60 ล้านคน อนึ่ง Hotmail เป็นหนึ่งในบริการอีเมลแรกๆ ของโลก เปิดตัวเมื่อปี 2539

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก :: http://www.kroobannok.com/

ที่มา :: มติชนออนไลน์

Tags: Hotmail, Outlook.com, ไมโครซอฟท์

หอมหัวใหญ่ช่วยเจริญอาหาร

          ไม่เพียงแต่เด็กเท่านั้นนะคะที่เบื่ออาหาร คนสูงอายุจำนวนมากก็มีอาการเบื่ออาหารเหมือนกัน

          เรามีสูตรอาหารที่กินดีมีประโยชน์ เป็นยากระตุ้นความอยากอาหารที่สำคัญ ไม่ต้องสิ้นเปลืองอาหารโดยใช่เหตุค่ะ

          สูตรที่ว่านี้คือผักใกล้ตัวในหม้อซุปอย่าง “หอมหัวใหญ่” วิธีการคือ ใช้หอมหัวใหญ่ 60 กรัม ผัดกับน้ำมันพืชเล็กน้อย กินเป็นประจำ จะช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร

          นอกจากนี้ หอมหัวใหญ่ยังมีสรรคุณช่วยบำบัดโรคไขมันในเส้นเลือดสูงและโรคลำไส้อักเสบได้อีกด้วย

          ประโยชน์มหาศาลอย่างนี้ หาซื้อติดครัวไว้ก็ดีนะคะ

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก :: นิตยาสารชีวจิต

Tags: หอมหัวใหญ่, เจริญอาหาร

สาวแอลจีเรียยิ่งอ้วนยิ่งสวย

credit :: www.tripadvisor.com

          การดูแลรักษารูปร่างให้ผอมเพรียว บอบบาง เป็นสิ่งที่สร้างความมั่นใจให้กับสาวๆ สมัยนี้ แต่สำหรับผู้หญิงในประเทศแอลจีเรียแล้วจะต้องบำรุงร่างกายให้อ้วนท้วนสมบูรณ์ ถึงจะมั่นใจว่าเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุด

          ชนเผ่าดูเรก (Tuareg) ในประเทศแอลจีเรีย มีวัฒนธรรมที่เชื่อกันว่า ผู้หญิงคนไหนยิ่งอ้วนก็จะยิ่งสวย โดยพ่อแม่จะเลี้ยงดูและบังคับให้ลูกสาวกินอาหารที่ดีและมีประโยชน์ อาหารประเภทใดที่กินแล้วทำให้อ้วนก็จะพยายามให้ลูกกินเข้าไปเยอะๆ อย่างเช่น เชื่อว่าดื่มนมแล้วจะทำให้อ้วนก็จะบังคับให้ลูกสาวดื่มนมมากๆ ตั้งแต่เด็กๆ เมื่อโตขึ้นจะได้เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุด

 

credit :: http://www.willgoto.com

          นอกจากนี้ ชนเผ่าตูเรกยังมีวัฒนธรรมที่แปลกอย่างหนึ่งคือ ผู้ชายในชนเผ่านี้จะต้องใช้ผ้าปิดปากไว้ตลอดเวลา ห้ามไม่ให้ผู้อื่นเห็นปากของตัวเองเด็ดขาด แม้กระทั้งเวลากินข้าว ทุกๆ ครั้งที่จะต้องตักอาหารเข้าปากจะใช้วิธีเลิกผ้าปิดปากขึ้นแล้วตักอาหารเข้าปาก เมื่ออาหารเข้าปากแล้วก็ดึงผ้ามาปิดไว้ตามเดิม แล้วจึงค่อยๆ เคี้ยวอาหารต่อไป ปัจจุบันชนเผ่าตูเรกยังคงยึดถือและปฏิบัติตามประเพณีแปลกๆ นี้กันอยู่ทั้งหญิงและชาย

 

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก :: iKnowledge จาก Msolution

Tags: ยิ่งอ้วนยิ่งสวย, สาวแอลจีเรีย, แอลจีเรีย

สวยอันตราย… 9 ทรีทเม้นท์ทำร้ายร่างกายทางอ้อม

    เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ค่อนข้างเห็นด้วยกับสุภาษิตที่ว่า “ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง” เราจึงใส่ใจดูแลร่างกายให้ดูดีกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำสปาตัว สปาผม นวดเท้า ตกแต่งเล็บมือ หรือการทำทรีทเม้นท์เพื่อสุขภาพ แต่ก่อนจะตัดสินใจไปทำทรีทเม้นท์อะไร เราอยากให้ดูข้อมูลต่อไปนี้ที่เราจะนำเสนอกันก่อนค่ะ เพราะบางทีทรีทเม้นท์บางอย่างก็อันตรายกับร่างกายของเราไม่ใช่เล่นเลยล่ะ

 

 1. สปาหู

 

          สปาหูเป็นศาสตร์บำบัดสำหรับคนที่มีปัญหาสุขภาพหู เช่น ปวดหูเนื่องจากโทรศัพท์มากเกินไป โดยวิธีก็คือ นำเทียนขี้ผึ้งสมุนไพรผสมกับน้ำมันหอมระเหย ที่มีรูกลวงตรงกลาง จ่อเข้าไปที่รูหู จากนั้นจุดไฟที่ปลายเทียน เพื่อให้ความร้อนและควันจากเทียนผ่านเข้าไปในช่องหู ช่วยฆ่าเชื้อโรคสำหรับคนที่มีขี้หูเปียกและบำบัดอาการปวดหู 

          แต่ทว่า แพทย์ได้ออกมาบอกว่า การทำสปาหูเป็นอันตรายต่อสุขภาพหูเป็นอย่างมาก เพราะหูเป็นอวัยวะที่เปราะบาง จึงควรได้รับการดูแลรักษาอย่างอ่อนโยนที่สุด และกระบวนการของสปาหูอาจเป็นเหตุให้แก้วหูได้รับอันตราย เกิดการอุดตันในช่องหู หรืออาจจะร้ายแรงไปถึงขั้นสูญเสียการได้ยินไปเลย 

          ดังนั้น แพทย์จึงแนะนำว่าการทำความสะอาดช่องหูควรทำด้วยวิธีอ่อนโยน ไม่รุนแรง และใช้วัสดุที่ค่อนข้างนุ่มอย่างคอตตอนบัดทำความสะอาดช่องหูจะดีกว่า หรือถ้ามีปัญหาสุขภาพก็ควรปรึกษากับแพทย์ดีที่สุดค่ะ

 

 2. สปาเท้า

 

          หลายคนชื่นชอบการสปาเท้า เพราะให้ความรู้สึกสบาย และคิดว่าเป็นการทำความสะอาดและบำรุงเท้าชุดใหญ่ แต่ในความเป็นจริงแล้ว แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้แสดงความเป็นห่วงว่า อุปกรณ์ต่างๆ ที่ทางร้านได้นำมาทำเล็บเท้าให้เรา ไม่ว่าจะเป็นคีมตัดหนังกำพร้า กรรไกรตัดเล็บ ตะไบเล็บ รวมทั้งผ้าขนหนูซับน้ำ จะสะอาดปลอดเชื้อโรคได้ 100% เต็มจริงๆ หรือเปล่า 

          เพราะถึงแม้ว่าทางร้านจะมีขั้นตอนการทำความสะอาดที่น่าไว้ใจ แต่อย่างไรก็ตาม เชื้อโรคที่อยู่ในเล็บเท้าของเรานั่นมีอยู่มากมายหลายชนิด และอุปกรณ์เหล่านี้ยังถูกนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้งกับผู้รับบริการหลายคนอีกด้วย ดังนั้น ทางที่ดีเราควรนำอุปกรณ์ทำเล็บเท้าส่วนตัวของเราไปเอง จะได้อุ่นใจได้ในระดับหนึ่ง

          แต่การป้องกันเพียงแค่นั้นก็อาจยังไม่เพียงพอ เพราะในอ่างน้ำที่เขาให้เราแช่เท้านั้น ก็แอบแฝงไปด้วยเชื้อโรคจากเท้าของเรา ว่ายวนอยู่เต็มไปหมด ดังนั้น ก็ควรหลีกเลี่ยงที่จะแช่เท้าเป็นเวลานานด้วย 

          นอกจากนี้ หลังจากทำสปาเท้าเสร็จใหม่ๆ ผิวเท้าเราจะบอบบางมาก จึงไม่ควรใส่รองเท้าแตะ หรือรองเท้าที่เปิดเผยเนื้อเท้ามากๆ ด้วย เพราะอาจเสี่ยงได้รับบาดเจ็บที่เท้าได้ง่ายๆ และควรดูแลรักษาความสะอาดเท้าให้ดี ด้วยการล้างเท้าทุกครั้งหลังกลับมาจากข้างนอก เพื่อป้องเชื้อโรคเข้าสู่เท้าเราด้วยค่ะ

 

 3. แว็กซ์ขนคิ้ว

 

          เราแว็กซ์ขนคิ้วเพื่อกำจัดคิ้วส่วนเกินออกไป เพื่อให้คิ้วสวยได้รูป แต่หารู้ไม่ว่า น้ำยาแว็กซ์ขนนั้นสามารถทำลายรูขุมขนเรา ทำให้ขนไม่ขึ้นอีกต่อไปได้ในระยาว แต่ผลกระทบในระยะสั้นก็คือ อาจทำให้ผิวไหม้จากแว็กซ์ที่มีความร้อนมากเกิน หรือผิวลอกเพราะแว็กซ์ที่แรงเกินไป และผิวติดเชื้อแบคทีเรียได้ง่ายขึ้นจากการที่ผิวบอบบางลง

          โดยเฉพาะกับผู้ที่ใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของเรตินอล ซึ่งจะมีผิวหน้าบางมากกว่าปกติ เสี่ยงเกิดรอยไหม้หรือผิวลอกได้ง่ายขึ้น ดังนั้น หากรู้ตัวว่าใช้เครื่องสำอางประเภทนี้อยู่ ก็ควรต้องหยุดใช้ประมาณ 1 อาทิตย์ก่อนทำการแว็กซ์ขนคิ้ว หรือทางที่ดีก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะแว็กซ์ดีกว่าค่ะ

          นอกจากนี้ ก่อนจะทำการแว็กซ์ขนคิ้ว ก็ควรต้องแน่ใจก่อนว่าผู้ให้บริการกับเรามีความเชี่ยวชาญเพียงพอ และได้รับใบอนุญาตประกอบการมาแล้ว หรือถ้าไม่แน่ใจว่าน้ำยาแว็กซ์ขนที่ร้านเสริมสวยใช้นั้นปลอดภัย จะเลี่ยงมาใช้แว็กซ์จากธรรมชาติ อย่างเช่นแว็กซ์น้ำตาลก็ดีค่ะ ปลอดภัยกับร่างกายกว่ากันเยอะเลย

 

 4. สปามือ

 

          สปามือก็คล้ายๆ กับสปาเท้า ที่ถึงแม้จะทำให้มือเราดูสุขภาพดีและสวยงาม แต่ก็แฝงไปด้วยอันตรายมากมาย เช่น การติดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย หรืออาจจะร้ายแรงถึงขึ้นมือและเล็บเสียโฉมไปเลยก็ได้ 

          ดังนั้น หากคุณตัดสินใจทำสปามือ สิ่งแรกที่ควรจะมองก็คือ ความสะอาดของร้าน ความสะอาดของอุปกรณ์ ที่จัดเก็บอุปกรณ์ ขวดน้ำยาที่ใช้ว่ามีฉลากหรือเปล่า หรือทางที่ดีก็พกอุปกรณ์ตัดเล็บไปเองเลยจะดีกว่า และควรจะคอยระวังไม่ให้ช่างตัดเล็บตัดหนังกำพร้าออกไป รวมถึงอย่าปล่อยให้เขาตัดเล็บเราจนสั้นเกินไปด้วย เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เล็บมือเสี่ยงได้รับเชื้อโรคได้โดยง่าย 

          หลังจากทำสปามือเสร็จแล้ว ให้สังเกตความผิดปกติของนิ้วมือด้วย หากเกิดรอยแดง รอยดำ หรือร่องรอยสีเหลืองติดอยู่บนเตียง ผ้าเช็ดตัว หรือหากรู้สึกว่าเล็บมือผิดรูปไป ให้รีบไปพบแพทย์ด่วนเลยค่ะ

 

 5. ทำเล็บแบบเจล

          เป็นสปาเล็บที่มีสาวๆ นิยมทำกันไม่น้อย เพราะจะได้ผลลัพธ์เป็นเล็บที่มีความมันวาวสวยงาม แต่ที่น่าตกใจก็คือ การทำเล็บแบบเจล ก็อาจจะทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งโรคผิวหนังได้ เนื่องจากเครื่องอบเล็บไฟฟ้า จะส่ง UV-A มายังผิวหนัง เป็นเหตุให้อาจเกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้นั่นเอง

          นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านเล็บยังแนะนำอีกด้วยว่า ควรเลือกร้านทำเล็บที่มีใบอนุญาตประกอบการและเลือกช่างที่มีความชำนาญมากพอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดอย่างไม่คาดคิดขึ้นกับเล็บและนิ้วมือคุณได้

 

 6. บำรุงผมด้วย BB (Brazilian Blowouts)

          BB หรือ (Brazilian Blowouts) เป็นทรีทเม้นท์ผมชนิดหนึ่ง ที่ทำให้ผมเงางาม และนุ่มสลวยได้ในระยะเวลาหนึ่ง แต่อันตรายจากการทำสวยด้วยวิธีนี้คือ ใน BB จะมีสารฟอร์มาลดิไฮด์ (formaldehyde) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ ฟอร์มาลินนั่นเอง ซึ่งหากสูดดมเข้าไปในปริมาณมาก อาจสร้างความระคายเคืองต่อเยื่อบุตา เยื่อบุจมูก และทางเดินหายใจ หรือหากมีความเข้มข้นสูงมาก ๆ ตั้งแต่ 100 ppm ขึ้นไป ก็อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต และหากมีการสัมผัสถูกสารละลายโดยตรงทางผิวหนัง จะทำให้เกิดผิวหนังอักเสบ เกิดอาการคันทันทีค่ะ

.

 7. บิกินีแว็กซ์

          แว็กซ์ทุกชนิดมีความสามารถในการทำลายผิวเหมือนกันหมด โดยเฉพาะแว็กซ์จากสารเคมี ที่อาจสร้างความระคายเคืองแก่ผิวหนัง รอยแดง รอยไหม้ ผิวบางลง เป็นเหตุให้ติดเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย และหากไม่อยากเสี่ยงกับการแว็กซ์ที่ไม่ได้คุณภาพ เช่น ไม่สะอาด ไม่ถูกวิธี ก็ควรต้องใส่ใจในทุกกระบวนการทำบิกินีแว็กซ์ด้วย อย่าลืมตรวจสอบใบอนุญาตผู้ประกอบการของร้าน รวมไปถึงใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของช่างผู้ให้บริการคุณ เพราะช่างที่ได้รับการอบรมวิชาชีพมาโดยเฉพาะ จะให้บริการได้อย่างถูกขั้นตอน ลดอันตรายจากการบาดเจ็บในระหว่างแว็กซ์ได้อีกด้วย

          อย่างไรก็ดี หลังจากทำบิกินีแว็กซ์ไปแล้ว ก็ควรต้องรักษาความสะอาดผิวบริเวณนั้นอย่างระมัดระวัง และหากเกิดความผิดปกติอะไร ก็ควรไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดค่ะ

 

 8. บำรุงผิวหน้า

          การบำรุงผิวหน้าก็เป็นทรีทเม้นท์ยอดฮิตที่สาว ๆ รวมไปถึงหนุ่ม ๆ ให้ความสนใจ ซึ่งก็อาจเกิดอันตรายกับร่างกาย เช่น การติดเชื้อได้เช่นกัน โดยเฉพาะหากได้รับการบริการจากบุคคลที่ไม่ได้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้

          ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่า ควรเลือกสถาบันดูแลผิวหน้าและช่างที่มีการรับรองคุณภาพ และมีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ นอกจากนี้ควรถามกับช่างตรง ๆ ไปเลย ว่าเขามีความเชี่ยวชาญกับเครื่องไม้เครื่องมือที่จะต้องนำมาใช้กับคุณแค่ไหน และควรดูความสะอาดบริเวณรอบ ๆ ห้องให้บริการ รวมไปถึงเครื่องมือและอุปกรณ์ทุกชนิดในนั้นให้ดีด้วย

          สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย อย่าลืมขอให้เขาตรวจสอบอาการแพ้ก่อนการใช้ผลิตภัณฑ์ทรีทเม้นท์ด้วยนะคะ

 

 9. ทำผิวสีแทน

          การเข้าอบในตู้ยูวี เพื่อทำให้ผิวกลายเป็นสีแทน เป็นอันตรายต่อสุขภาพมาก ๆ และอาจเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้มากถึง 55% โดยเฉพาะกับคนที่มีผิวบาง และมีปัจจัยเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งอยู่แล้ว ซึ่งอาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งได้มากขึ้นด้วยค่ะ

          การทำทรีทเม้นท์หรือทำสวยด้วยวิธีต่าง ๆ ก็เหมือนเป็นดาบสองคม ที่มีทั้งผลดีและผลเสีย ซึ่งก็แล้วแต่ความพอใจของแต่ละบุคคล และคงต้องพิจารณากันด้วยตัวเองอย่างถี่ถ้วนนะคะ แต่ถ้าอยากสวยอย่างปลอดภัย วิธีธรรมดาอย่างการออกกำลังกายและการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ก็ยังมีนะจ๊ะ แถมไม่ต้องเสียเงินแพง ๆ ด้วยล่ะ

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก :: http://health.kapook.com

วิธีเช็คอายุไข่ไก่

          ไข่ไก่นั้นแน่นอนว่าจะไม่มีวันเดือนปีที่ไข่ออกมาจากแม่ไก่ แต่หากว่าเราอยากจะรู้ว่าไข่ไก่นั้นเก่าหรือยัง เพื่อที่จะเลือกกินได้ถูกก็สามารถทำได้ง่ายๆ

          ก่อนอื่นนั้นให้เรานำน้ำมาใส่ในกะละมังใบเล็กๆ จากนั้นก็ค่อยใส่ไข่ลงไปในกะละมังแล้วสังเกตดู หากว่าไข่ตั้งตรงก็แสดงว่าเป็นไข่ที่เก็บมาหลายวันแล้ว ถ้าไข่เอนก็แสดงว่าเป็นไข่ที่เพิ่งเก็บมามีความสดใหม่อยู่ แต่ถ้าหากว่าไข่ใบไหนลอยน้ำแสดงว่าเก็บมานานมาก ไม่ควรนำมาประกอบอาหารเพราะอาจจะเป็นไข่เสียไม่ดีต่อสุขภาพ

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก :: iKnowledge2 จาก Msolution

Tags: วิธีเช็คอายุไข่ไก่, อายุไข่ไก่, ไข่ไก่

วิธีออกกำลังกายลดความอ้วน

          การออกกำลังกายถือเป็นการลดความอ้วนที่ดีที่สุด แต่ก็มีหลายๆ คนที่ออกกำลังกายมาตั้งนานแล้ว แต่ความอ้วนก็ยังไม่ลดลงสักที

          จริงๆ แล้วการออกกำลังกายเพื่อลดความอ้วนให้ได้ผลดี มีเทคนิควิธีนั่นคือ ต้องออกกำลังกายแบบสลับช่วงสลับชนิด เช่น วิ่งๆ เร็วๆ สลับวิ่งช้าๆ โดยวิ่งเร็วเต็มที่สัก 2 นาที จากนั้นจึงผ่อนความเร็วลงอีก 2 นาที ทำแบบนี้ประมาณครึ่งชั่วโมง

          นอกจากนี้ยังอาจปรับไปใช้กับการเดินเร็วสลับเดินช้า หรือใช้วิธีสลับชนิดการออกกำลังกายเป็น ปั่นจักรยานสลับกับตีแบดมินตัน วิ่งสลับซิตอัพ หรือว่ายน้ำสลับซิตอัพก็ได้ โดยทำสลับกันอย่างละ 15 นาที

          ซึ่งการออกกำลังกายแบบนี้จะทำให้ออกซิเจนไปเลี้ยงหัวใจและปอดได้ดี ทำให้หายใจได้ลึกขึ้น ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อระบบการเผาผลาญของร่างกาย จึงทำให้น้ำหนักลดลงได้เร็วขึ้น แถมยังแก่ช้าลงอีกต่างหาก

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก : iKnowledge จาก Msolution

Tags: ลดความอ้วน, วิธีออกกำลังกายลดความอ้วน, ออกกำลังกาย, ออกกำลังกายลดความอ้วน

วิธีนอนหลับอย่างมีคุณภาพ

  

         ’นอนหลับ’ เรื่องปกติง่ายๆ สำหรับคนบางคน แต่ยากเย็นสำหรับบางคนเช่นกัน บางคนน่าอิจฉามากแค่หัวถึงหมอนก็หลับสนิทรวดเดียวจนถึงเช้าแล้ว ผิดกับบางคนที่กว่าจะนอนหลับได้ใช้เวลานานกว่าจะหลับลงได้ หรือแม้แต่หลับไปแล้วตื่นขึ้นกลางดึก ก็เป็นเรื่องยากเสียแล้วที่จะข่มตาหลับลงได้อีกครั้ง

 

          อาการเช่นนี้มักเกิดขึ้นได้กับคนทั่วไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยของแต่ละคนที่อาจจะมีพฤติกรรมที่แตกต่างกันไป เช่น ความเครียด วิตกกังวล การรับประทานอาหาร หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน รวมถึงยาแก้ปวดต่างๆ สิ่งแวดล้อมขณะนอนหลับ หรือการออกกำลังกายที่ไม่เหมาะสม เช่น ออกกำลังกายในช่วงเวลาก่อนเข้านอนหรือใกล้เวลานอนหรือออกกำลังกายหักโหมเกินไป ปัจจัยเหล่านี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาการนอนที่ขาดคุณภาพ เช่น นอนไม่หลับ หลับไม่เต็มอิ่ม ตื่นขึ้นมาไม่สดชื่น เป็นต้น

 

          คนไข้บางคนใช้วิธีแก้ปัญหาด้วยการกินยานอนหลับ ออกกำลังกาย ดื่มกาแฟมากขึ้น เพื่อไม่ให้หลับกลางวัน หรือเปลี่ยนมาทำงานกลางคืนแทน ซึ่งแทนที่จะแก้ปัญหากลับทำให้การนอนหลับในเวลากลางคืนยากยิ่งขึ้น และถ้าอาการเหล่านี้สะสมนานวันเข้าโดยไม่ได้รับการวิเคราะห์หรือแก้ไขที่ถูกต้อง จะทำให้วงจรการหลับการตื่น (Sleep wake cycle or circadian rhythm) เสียไปด้วย จนกลายเป็นการนอนหลับที่มีความผิดปกติและเป็นปัญหาการนอนเรื้อรังในที่สุด

 

          “นอนหลับอย่างมีคุณภาพ”

 

          การนอนหลับอย่างมีคุณภาพ คือ การหลับสนิท ตื่นนอนมาพร้อมกับความสดชื่นและมีพลังที่จะทำงานในวันนั้นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การทำงานของร่างกายโดยเฉพาะการทำงานของสมองเป็นไปได้อย่างปกติ รวมถึงต้องมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่เหมาะสม เช่น สุขภาพร่างกายแข็งแรง สุขภาพจิตใจดี รับประทานอาหารที่เพียงพอ เป็นต้น เพื่อให้การนอนหลับของคุณมีคุณภาพมากขึ้น ลองฝึกเทคนิคเพื่อการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ (Sleep Hygiene) นี้เป็นประจำ จะทำให้คุณกลับมามีการนอนหลับที่ดีและมีคุณภาพได้อย่างแน่นอน

 

          ควรทำ (DO) 

 

          ❤ เข้านอนและตื่นนอนให้ตรงเวลาเป็นประจำทั้งวันทำงานปกติและวันหยุด เพื่อให้นาฬิกาชีวิต (biological clock) ทำงานตลอดเวลา รับแสงให้เพียงพอในตอนเช้า อย่างน้อย 30 นาทีทุกวัน เนื่องจากแสงแดดเป็นตัวกระตุ้นการควบคุมนาฬิกาชีวิตที่สำคัญ และการที่ตาได้รับแสงแดดธรรมชาติที่เปลี่ยนไปในแต่ละวัน จะช่วยกระตุ้นจังหวะการหลับการตื่น (sleep cycle) ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

 

          ❤ ห้องนอนควรเงียบ สงบสบาย มีอุณหภูมิที่พอเหมาะ ไม่มีเสียงหรือแสงรบกวนขณะหลับ หรือแสงแดดยามเช้า ที่นอนที่สบายควรมีผ้าห่ม หมอนข้าง และม่านกันแสงแดด เพื่อช่วยให้การนอนหลับง่ายขึ้น หากห้องนอนมีเสียงรบกวนตลอดเวลาจากภายนอก อาจใช้เสียงเพลงเบาๆ หรือเสียงที่ทำให้ผ่อนคลายเปิดคลอไปตลอดคืน (white background noise) หรืออาจจำเป็นต้องใช้จุกหูฟังปิดหูเพื่อป้องกันเสียงรบกวน

 

          ❤ ควรใช้ห้องนอนเพื่อการนอนหลับ พักผ่อน หรือกิจกรรมทางเพศเท่านั้น รวมถึงเตรียมกิจวัตรประจำวันที่พร้อมในการนอน เช่น อาบน้ำ แปรงฟัน เป็นต้น

 

          ❤ ควรควบคุมหรือจัดการกับความเครียดของตนเอง เช่น การฝึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อ การทำสมาธิ การสะกดจิต  เป็นต้น

 

          ❤ หากนอนไม่หลับภายใน 10 นาที ไม่ควรกังวล ไม่ควรมองนาฬิกา ควรลุกจากที่นอนหากิจกรรมอื่นทำ เช่น ดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือ แล้วกลับมานอนใหม่อีกครั้งเมื่อง่วง

 

          ไม่ควรทำ (DON’T)

 

          ❤ หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เช่น โกโก้ ช็อกโกแลต น้ำอัดลม หรือยาแก้ปวดบางชนิดหลังอาหารมื้อเที่ยง

 

          ❤ หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ก่อนการนอนหลับ 3 ชั่งโมง

 

          ❤ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหนักก่อนนอนหลับอย่างน้อย  2 ชั่วโมง แต่ควรกินเบาๆ เช่น นม หรือขนมขบเคี้ยวเล็กน้อยก่อนนอน จะทำให้การนอนหลับง่ายขึ้น

 

          ❤ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ก่อนนอนหลับ 2 ชั่วโมง

 

          ❤ หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายก่อนนอนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง

 

          ❤ หลีกเลี่ยงการงีบหลับตอนกลางวัน

 

          ❤ หลีกเลี่ยงงานที่ต้องใช้สมาธิ โต้เถียง คุยโทรศัพท์ หรือดูภาพยนตร์ตื่นเต้นสยองขวัญก่อนเข้านอน

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก ::  http://www.thaihealth.or.th

ที่มา: หนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์

วิธีจัดการ 6 ตัวขโมยเวลานอน

   

          ใครกำลังมีปัญหาเรื่องการนอน ลองมาเช็คตัวขโมยเวลานอนและนำวิธีแก้ง่ายๆ ไปใช้กันค่ะ 

          คิดมากกับเรื่องรถสมอง : เมื่อนอนไม่หลับให้ลุกขึ้นเดินไปส่วนอื่นๆ ของบ้าน ความกระวนกระวายใจเกี่ยวกับเรื่องรถสมองจะหายไป เมื่อกลับมาที่เตียงก็จะหลับง่ายขึ้น

          ฮอร์โมนเปลี่ยนช่วงที่จะมีประจำเดือน : ช่วงมีประจำเดือนหากมีอาการตะคริวรบกวนบ่อยๆ ในเวลานอน แนะนำให้อาบน้ำอุ่นก่อนนอน ออกกำลังกายเป็นประจำวันละ 30 นาที

          ใช้ชีวิตวันหยุดหนักไปหน่อย : แม้จะเข้านอนดึก วันรุ่งขึ้นให้ตื่นนอนตามเวลาปกติ หากง่วงนอนให้งีบกลางวันได้ แต่ไม่มากกว่า 30 นาที จำไว้ว่าจะไม่นอนชดเชยมากจนเกินควรหรืองีบกลางวันให้นานนัก เพราะจะทำให้เกิดปัญหาการนอนไม่หลับไปอีกหลายคืน

          ห้องรก : ได้เวลาจัดเอกสารหรือของกระจุกกระจิกให้เป็นที่เป็นทาง เมื่อห้องและเตียงเรียบร้อยแล้ว สมองจะเรียนรู้โดยอัตโนมัติว่าห้องนอนนี้เป็นที่สำหรับนอนหลับพักผ่อนเท่านั้น ซึ่งช่วยให้หลับง่ายขึ้น

          แสงไฟรบกวนจากด้านนอก : ติดม่านสีทึบหรือสวมผ้าปิดตา

          ขนปุยมานอนด้วย : หลายคนที่เคยนำสัตว์เลี้ยงตัวโปรดมานอนด้วย หรือให้เข้ามาหาในห้องนอนตลอดเวลา ต้องหลับๆ ตื่นๆ อยู่บ่อยๆ เพราะด้วยนิสัยขี้ประจบของสัตว์เลี้ยง หากเป็นไปได้ให้แยกพวกเขาออกจากนอกห้อง

          รู้แล้ว กำจัดจุดอ่อนด่วนค่ะ 

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก :: นิตยาสารชีวิต

Tags: เวลานอน

ร้าน 7-ELEVEN ทำไม N ตัวเล็ก

          ร้านสะดวกซื้อ “เซเว่นอีเลฟเว่น” ที่เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง เวลาคุณเดินเข้าไปซื้อของเคยสังเกตโลโล้ที่ป้ายร้านบ้างไหมว่า คำว่า 7-ELEVEn นั้น ทำไม n ตัวท้ายสุดถึงต้องเป็นอักษรตัวพิมพ์เล็ก? ทั้งที่ตามหลักการเขียนที่ถูกต้องแล้ว จะต้องเขียนเป็นอักษรตัวพิมพ์ใหญ่ให้เหมือนกันทั้งคำ

          ที่ต้องใช้ n ตัวเล็กก็เพราะ ผู้เป็นเจ้าของ 7-ELEVEn มีความเชื่อถือในเรื่องฮวงจุ้ย เมื่อจะเปิดกิจการก็ต้องอาศัยหลักฮวงจุ้ย เพื่อความเจริญรุ่งเรือง ที่เลือกใช้ n ตัวพิมพ์เล็กแทน N ตัวพิมพ์ใหญ่นั้น เป็นเพราะว่า n ตัวพิมพ์เล็กมีลักษณะรูปร่างเหมือนกับแม่เหล็ก (ทรงเกือกม้า) จะได้เป็นตัวดึงดูดลูกค้าและเงินทองเข้าร้านและนำมาซึ่งโชคลาภความเจริญรุ่งเรืองต่างๆ ให้แก่กิจการต่อไป

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก :: iKnowledge จาก Msolution